การทำบุญ ไม่ได้ทำให้ใจเราเป็นสุขเสมอไป
แต่การไม่ทำเลยมันแย่ยิ่งกว่า… ทำไมเหรอ ทำไมนิดหน่อยว่าอย่างนั้น
ในวันที่นิดหน่อยมีความทุกข์อยู่ในใจ นิดหน่อยเลือกที่จะไปทำบุญทำทานกับเพื่อนๆ
ไม่ว่าจะเป็นการให้ทานสัตว์ ให้ทานคน ทำบุญแบบต่าง ๆ
สร้างโบสถ์สร้างวิหารก็แล้ว ให้อาหาร นก ปลา หมา แมว ช่วยเหลือคนพิการ ไถ่ชีวิตโค กระบือ
และอื่น ๆ อีกมากมายแต่ มันก็ได้แค่บรรเทาทุกข์ กลบทุกข์นั้นไว้ชั่วขณะนึงเท่านั้น
การทำบุญ บุญนั้นได้ ส่วนใจที่จะปลอดโปร่งโล่งสบายนั้น มันต้องเกิดจากปัญญาที่เห็นได้ รู้ได้ด้วยตนเอง
นิดหน่อยมานั้งพิจารณา เรื่องราวต่าง ๆ ที่ทำให้ทุกข์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเมื่อไหร่ที่เห็นว่าความที่คับแค้น ขัดข้องนั้นมาจากอะไรนั่นแหละ มันถึงเบาขึ้น โดยที่นิดหน่อยก็ใช้บุญในส่วนที่ทำนั่นแหละ ขอพรให้เกิดปัญญารู้แจ้งในเหตุในเหตุของความทุกข์ซ้ำซากนั้น ๆ ให้จงได้
วันที่เรามองเห็นกุศลมันเกิดเองโดยอัตโนมัติ ใจมันจะโล่ง โปร่ง เบา ไม่มามีอะไรที่ติดขั้วหัวใจหนืด ๆ หน่วง ๆ อีกต่อไป แต่ในวันที่เรามองไม่เห็นอะไรมันก็ดูแย่ไปหมด ฟ้าแทบจะเป็นสีเทาดำ บรรยายกาศต่อให้ดีแค่ไหน แต่ใจมันไม่ได้ มันก็คือ ไม่ได้นะ
สิ่งที่โชคดีที่สุดของคน ๆ นึง น่าจะเป็น เรื่องที่ว่า มองเห็นโลกตามความเป็นจริงได้อย่างถึงที่สุด
เพราะถ้าไม่มีมายาใดมาบิดเบือนใจเราได้แล้ว โลกแห่งความสว่างไสว คงอยู่ใกล้ๆ ตัวเราเสมอ
โลกของคนแต่ละคนมันแตกต่างกัน โลกของเค้า โลกของเรา โลกของมัน โลกของเธอ และโลกย่อย ๆ ของใคร ๆ อีกมากมาย จะให้เห็นตามกันไปหมดคงไม่ได้ เค้าก็คือเค้า เราก็คือเรา มันก็คือมัน เธอก็ยังคงเป็นเธอเสมอ การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะเกิดกันได้ในพริบตา
เพราะโลกนี้ คือ ความหลากหลายในมิติต่าง ๆ ที่ลงตัว
Leave a Reply