การรู้จักตัวเองเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ การตื่น ที่จะเรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับชีวิต จิตใจ และจิตวิญญาณของตนเอง
ชีวิตเราเริ่มต้นจาก ความรู้ ไปสู่ความไม่รู้ หากเชื่อว่าจิตเดิมแท้ล้วนบริสุทธิ์ และเราสามารถขัดเกลาจิต วิญญาณ แห่งเราที่เวียนว่าย ให้กลับไปสู่ความบริสุทธิ์ได้อีกครั้งนั้น เป็นเครื่องยืนยันว่า เราเริ่มต้นมาจากความตื่นรู้อยู่อยู่แล้ว แต่การเวียนว่ายผ่านเรื่องราวต่าง ๆ นานา ในจักรวาลนั้น เราได้สะสมสิ่งใหม่ ๆ ที่ มีผู้เรียกมันว่า ความไม่รู้ ให้พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นความสับสนวุ่นวาย ในชีวิต จิตใจ ของเรา ๆ กัน
ความไม่รู้จึงกลายเป็น ความรู้ที่เราต้องเรียนรู้และเข้าใจอย่างหนักเลยทีเดียว
เมื่อเรากล่าวอ้างความเป็นปกติ ในรูปแบบของเรา หากว่าเรารู้สึกว่าเราเหนือกว่าอยู่เสมอ ใครที่ต่างไป เบี่ยงออกไปจากแนวที่ใกล้เคียงกับเรา ก็มักจะทึกทักบอกเอาว่า สิ่งนั้นใช่ไม่ใช่ ความเป็นอย่างนี้ ไม่มีอย่างนั้น ที่ต่างออกไปมันช่างผิดปกติ แล้วผู้มีอำนาจมากกว่าก็ตั้งกฎเกณฑ์ เอาผู้ที่ดูต่างไปจากตนไปไว้ในอีกชนชั้นหนึ่ง ๆ ที่อุปโลกน์ขึ้น แล้วผลิตซ้ำความคิดส่งออกไป อย่างต่อเนื่อง ให้ผู้คนทั้งหลายเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น
เหยื่อจากสิ่งเหล่านี้พอกพูนขึ้นทุกวัน แตกต่างมากก็อาจจะถูกเรียกให้ดูเลวร้ายไปตามที่สังคมกำหนด เช่น ผู้ร้าย อาชญากร ฆาตกร มิจฉาชีพ เดนมนุษย์ อะไรก็ว่าไป
แต่ผู้คนเหล่านี้ก็เกิดมาจากสิ่งที่เรา ๆ ท่าน ๆ สร้างมาทั้งนั้น ไม่มีใครเกิดมาดูเลวร้ายเลยในทันที ทุกอย่างต้องสั่งสมขึ้นมา ถามว่ามาจากไหน ก็มาจากที่สั่งสอนบ่มเพาะกันมา ค่อย ๆ งอก ค่อย ๆ เติบโต จนกลายเป็นอะไรสักอย่าง ที่ผู้คนอาจต้องการหรือไม่ต้องการก็ได้
แต่นั่น คือ ความหลายหลากที่สวยงามของโลกไม่ใช่หรือ ความสับสนที่ปนสุขปนเศร้า มันทำให้การดำเนินไปของชีวิตมีสีสันสวยงาม มีบททดสอบจากสิ่งเร้ามากมายว่า เราจะผ่านมันไปได้หรือไม่ มันเป็นความท้าทายของชีวิต
แสงแรก หากเป็นแสงสีขาวใสบริสุทธิ์จริง ยามเมื่อมีสิ่งใดมาตกกระทบย่อมเกิดการหักเหและเบี่ยงเบนออกไป ทำให้เกิดแสงสีที่สวยงามต่าง ที่เราเห็นและสัมผัสได้ด้วยตาเปล่า เกิดความวิจิตรขึ้นมากมายไปยังที่ต่าง ๆ
มนุษย์ สัตว์ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็ เช่นกัน หากเรามองให้เห็น เข้าใจในความเป็นไปของกลไกต่าง ๆ โดยละเว้นการเข้าข้างตัวเองอย่างมากได้บ้าง เราก็จะเห็นความงามในความวุ่นวายสับสนของสังคมบนโลกใบนี้
#olanhappiness
Leave a Reply