เมื่อพระเจ้าบุเรงนองมหาราช แห่งราชวงศ์ตองอู (Bayinnaung Kyawhtin Nawrahta พ.ศ.2059-2124) ทรงสวรรคต ด้วยอาการพระประชวร ขณะยกทัพไปตียะไข่ (Rakhine) อาณาจักรพม่าก็ก้าวสู่ความวุ่นวายและนำมาสู่สงครามภายในจากการแยกตัวของเมืองประเทศราชทั้งหลาย กษัตริย์พม่าผู้สืบราชบัลลังก์ต่อจากบุเรงนองคือ พระเจ้านันทบุเรง พระองค์ทรงอ่อนแอจนบรรดาประเทศราชประกาศแยกตัวเป็นอิสระ แม้กระทั่งกองทหารและชาวบ้านก็หลบลี้หนีหายจนอาณาจักรหงสาวดีที่เคยยิ่งใหญ่เกรียงไกรแทบกลายเป็นเมืองร้าง ประกอบกับปัญหาการรุกรานของชาวยะไข่ กษัตริย์แห่งราชวงศ์ตองอูจำเป็นต้องถอนตัวจากการครอบครองดินแดนทางตอนใต้ โดยย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เมืองอังวะ ตั้งเป็น อาณาจักรอังวะ (Ava Kingdom) แม้ชาวยะไข่จะมีบรรพบุรุษสืบเชื้อสายเดียวกันกับชาวพม่า แต่กระนั้นชาวพม่าก็ยังมองชาวยะไข่ว่ามีนิสัยใจคอออกไปทางแขก เนื่องจากรัฐยะไข่นั้นตั้งอยู่ใกล้กับบังกลาเทศและอินเดียที่มีทั้งชาวมุสลิมและฮินดู อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์กันมายาวนาน โดยอยู่ร่วมและใกล้ชิดกับชาวมุสลิม พม่าจึงมีโวหารเปรียบเปรยไว้ว่า “หากสู้แขกไม่ไหว ให้ถามพวกยะไข่” ทั้งนี้เนื่องจากชาวยะไข่ที่นับถือศาสนาพุทธอยู่ร่วมสังคมเดียวกับชาวมุสลิมได้ ชาวพม่ายังมองว่าชาวยะไข่นั้นไม่ค่อยจะยอมอ่อนข้อให้ผู้อื่นและร้ายจนพวกแขกก็ไม่กล้ามาตอแยด้วย กองทัพชาวยะไข่ โดยกษัตริย์ Min Razagyi จากอาณาจักรอาระกัน (Arakan) ได้บุกเข้ามาปล้นสะดมแล้วเผาเมืองโดยง่าย พวกยะไข่มีกองทัพที่เข้มแข็งและยังมีทหารรับจ้างเป็นชาวโปรุเกสที่เชี่ยวชาญการรบ เมื่อครั้นเคลื่อนพลมาหงสาวดีก็ตั้งกองทัพเรือที่เมืองสิเรียม บริเวณปากแม่น้ำอิระวดี (Irrawaddy) ครั้นเสร็จศึกสงคราม ก็ปูนบำเหน็จให้ทหารรับจ้างโปรตุเกสชื่อ ฟิลิป เดอ บริโต ยี นิโคเต (Philip de Brito Nicote, ค.ศ. 1566-1613) เป็นเจ้าเมืองสิเรียม (Syriam)
read more via เจ้าฝรั่งแห่งสิเรียม — ANEK@DARRINE
Leave a Reply