อิงข่านยังติดใจในเศษขวดน้ำหอมนั้น
ถือมาทำไม..ทำไมต้องอยากได้มา
“เอนกๆ ถามอะไรอีกนิดสิ” ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหา
“ได้..ว่าไงล่ะ”
“นายได้กลิ่นอะไรมั้ย กลิ่นหอมคล้ายๆ กุหลาบ ได้กลิ่นบ้างมั้ย”
เอนกทำหน้างง รวมถึงนักศึกษาที่ยืนอยู่ด้วยก็เริ่มหันมาสนใจ “ไม่นะ ทำไมเหรอ”
“เฮ้ย..อะไร เราได้กลิ่นตลอดเลย คนอื่นไม่ได้กลิ่นเลยเหรอ”
ทุกคนทำหน้างงหนักกว่าเดิม “นิ คุณอิงข่านครับ ถ้าจะหมายถึงเศษขวดน้ำหอมของคุณนะครับ ลืมไปได้เลย เพราะมันพันกว่าปีแล้วกลิ่นที่ไหนจะมี มโนไปเองป่าว หรือแอบไปดมของสาวแถวนี้ที่ไหนมาม้าง”
“จริงๆ ได้กลิ่นจริงๆนะไม่มีใครได้กลิ่นเลยเหรอ” ผมชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วยื่นเศษแก้วให้ทุกคนลองดมอีกที่ “มันอาจจะเป็นแก้วเคลือบพิเศษทำให้กลิ่นติดได้ทนนานเป็นพันปีก็ได้มั้ยอ่ะ”
“จะมาเคลือบสารพิเศษอะไร เป็นพันปีมันก็ต้องเสื่อมสลายเป็นปกติโลกมั้ยละครับ” ดร.เอนกแย้ง
“นี่ไง กลิ่นคล้ายดอกกุหลาบ ตอนนี้ก็ยังได้กลิ่นอยู่เลย ไม่มีใครได้กลิ่นจริงเหรอ” ผมมองไปรอบๆ ทุกคนส่ายหน้ากันหมด
“ไปๆ ทำงานต่อคุณอิงข่านคงหลงมิติแล้วล่ะ 555” ดร.เอนกแซว และให้ทุกคนแยกย้ายกันไปประจำจุดของตัว
ถ้าไม่คิดไปเอง แล้วกลิ่นนี้มันอะไร ก็มันมีกลิ่นจริงๆ นินา ทำไม่ได้กลิ่นคนเดียววะ หรือหลอนไปเองยังสว่างอยู่เลยกุเจอไรวะเนี่ย ผมคิดของผมคนเดียวสักแปบนึงได้ยินเสียงใสๆ ตะโกนทักเอนก เลยหันไปดู แวบแรกที่เห็น รู้สึกเหมือนมีอะไรประทับไปที่ใจมันสะท้านยังไงบอกไม่ถูก ผมก็ไม่แน่ใจว่าคิดไปเองรึเปล่า กลิ่นก็ได้กลิ่นอยู่คนเดียว ดันหันไปเจอน้องคนนี้แล้วเหมือนมีกระแสอะไรมาที่ตัวเราอีก สงสัยจะเพ้อละ แล้วผมก็เดินไปหาเอนกที่ยืนคุยอยู่กับน้องคนนั้น
“สวัสดีครับ” ผมเอ่ยทัก
“แววตา นี่คุณอิงข่านที่บอกว่าจะมาสนับสนุนให้ทุนงานของพวกเราไง” เอนกแนะนำ
“สวัสดีคะ ยินดีมากๆ เลยคะ ดีใจมากๆ ด้วย งานที่พวกเราสนใจคนทั่วไปไม่ค่อยให้ความสำคัญ พวกที่ให้ความสำคัญก็จะเป็นพวกสะสมของโบราณ วัตถุโบราณในยุคต่างๆ แต่เค้าก็ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ไม่ได้ทำเพื่อชาติ เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไว้ให้ลูกหลาน หนูดีใจมากเลยค่ะ ที่คุณอิงข่านสนใจและจะสนับสนุนพวกเรา” เสียงใสๆ ของแววตา กับสีหน้าที่เปล่งประกาย ทำให้ผมประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้คุยกัน
“ครับๆ ยินดีมากเลยครับ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้เลยครับ ส่วนตัวผมสนับสนุนงานแบบนี้อยู่ตลอดครับ เพราะอยากให้ลูกหลานและสาธารณชนได้รู้รากของตัวเองไว้บ้าง จะได้ไม่ลืมว่าเรามีที่ไปที่มาและเกี่ยวพันกับอะไร คนทุกวันนี้มันแทบจะลืมรากของตัวเองไปหมดแล้วไม่ต้องถึงขนาดพันปี แค่ไม่ถึงสี่สิบปีนี่ไม่รู้จะเปลี่ยนอัตชีวประวัติตัวเองไปหมดรึยัง ยิ่งช่วงเปลี่ยนผ่านแผ่นดินยิ่งน่ากลัว” เอนกเห็นผมคุยกับแววตาถูกคอก็ปล่อยให้คุยกันต่อ แล้วตนเองก็เดินไปทำงานต่อ
“ขอหนูเรียกคุณอิงข่านว่าอาจารย์ได้มั้ยคะ จะได้เหมือนที่เรียกอาจารย์เอนก ยังไงอาจารย์ก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้วและยังสนับสนุนงานพวกเราด้วย ถือว่าเป็นผู้มีอุปการะคุณของพวกเรา งั้นให้หนูเรียกว่าท่านอาจารย์แล้วกันนะคะ” แววตารวบรัดตัดความ ผมก็ยืนหัวเราะในความสดใสของนาง “จะเรียกอะไรก็เรียก อย่าเรียกว่าลุงแล้วกัน 555” ผมแหย่เธอไป
“แล้ววันนี้แววตา มาที่นี่ทำไมเหรอครับ มีธุระกับอาจารย์เอนกรึเปล่า ไปคุยธุระได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ”
“อ่อ พอดีหนูไปสำรวจอีกทางมาได้ลูกปัดมาดูเก่ามากเลย ก็เลยว่าจะมาให้อาจารย์ดูให้น่ะคะ แต่ไม่ได้รีบร้อนอะไร”
เอนกเดินกลับมาพอดี ได้ยินที่แววตาบอกผมเลยขอดูแล้วก็บ่นนิดหน่อยตามประสาคนอนุรักษ์ของโบราณล้านปี “แอบไปเจอพวกขุดของเก่ามาอีกแล้วสิ ยิ่งเราไปเอามา มันยิ่งกระตุ้นให้คนพวกนี้ทำไม่ดีรู้มั้ย”
“โอยๆๆๆ อาจารย์คะ ถึงเราไม่เอามาก็มีคนอื่นเอาไปมั้ยล่ะคะ และถึงเราไม่ซื้อไม่หาไม่สนับสนุน อาจารย์คิดว่าคนพวกนี้จะเลิกทำเหรอ และที่สำคัญคือ เส้นนี้อยู่ๆ ก็มีลุงคนนึงยืนมาให้เฉยเลยตอนที่หนูไปเดินตลาด ไม่ได้ซื้อมาสักหน่อย” แววตาลอยหน้าลอยตาอธิบาย
ผมยืนฟังอยู่ก็สังเกตดูสร้อยเส้นนั้น มันดูคุ้นตามาก แต่วันนี้มันก็มีเรื่องแปลกหลายเรื่องแล้วตั้งแต่บ่ายมาก็ไม่ค่อยจะแปลกละ เริ่มปรับโหมดตัวเองได้ ถ้าไม่คิดไปเอง ไม่บ้า ไม่เพ้อ กุมั่นใจมากว่าเดี๋ยวต้องมีอะไรให้ติดตาม แค่ตอนนี้ยังไม่รู้
พุธโธ ธัมโม สังโฆ ยังไงก็ให้ลูกช้างเกี่ยวพันในทางดีนะครับท่านเทพเทวาอารักษ์ทั้งหลาย ลูกมาดีไม่ได้มาร้าย มาทำให้คนในชาติได้รู้รากความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกันจากอดีตสู่ปัจจุบัน หากส่วนนี้ของกระผมได้รับความชอบธรรมในการทำทุกอย่างในทุกมิติจักรวาลแล้ว ก็ขอให้สิ่งที่เชื่อมโยงเกี่ยวพันกันทั้งหมดจงปรากฎเด่นชัด สมบูรณ์ และเข้าใจความเป็นไปเพื่อคลี่คลายไปในทางที่ถูกที่ควร เปลี่ยนความเข้าใจผิดเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องตามประสงค์แห่งเบื้องบนองค์จักรวาล…และหากสิ่งเหล่านี้ที่ถูกขุดค้นขึ้นมาต้องเกี่ยวพันกับผู้หนึ่งผู้ใดก็ขอให้ได้รู้ได้เห็นในทางที่เหมาะสมทุกประการ ให้ตื่นรู้เบิกบานพร้อมที่จะให้แสงสว่างในอดีตที่เกี่ยวพันนี้ นำทางชีวิตที่ดีในปัจจุบันได้อย่างเหมาะสมด้วยเถิด…
ผมอธิษฐานในใจ เพราะตอนนี้ผมคงต้องเกี่ยวพันกับเรื่องนี้โดยตรง อย่างไม่ได้ตั้งตัวก็แค่จะมาดูเฉยๆ เองจริงๆ แต่โดยสัญชาตญาณและโดยประสบการณ์ ๓๘ ปี ที่เกี่ยวพันกับเรื่องเข้าใจยากในโลกปัจจุบันมาตั้งแต่เด็ก ผมมั่นใจมากว่าผมควรเตรียมตัวเตรียมสติให้พร้อมกับเรื่องนี้จะดีที่สุด
“นี่ลูกปัดทองดอกบวบใช่มั้ย” ผมเอ่ยแทรกระหว่างที่สองคนนั้นกำลังเถียงกันเรื่องความถูกต้อง
“อ่อ น่าจะใช่นะคะ แต่หนูไม่แน่ใจต้องถามอาจารย์ดีกว่าคะ…เอิ่ม อาจารย์อิงข่านใส่น้ำหอมอะไรเหรอคะ หอมจัง พอดีกลิ่นมันเข้าจมูกตลอดและพอดีอีกว่าหนูชอบกลิ่นกุหลาบแบบนี้” ที่แววตาถามทำให้ผมสะดุดทันที
“ไม่ได้ใส่ครับ คุณแววตาได้กลิ่นกุหลาบเหรอ”
“ใช่คะ อ่าวงั้นถ้าไม่มาจากอาจารย์แล้วมาจากใคร เพราะอาจารย์เอนกก็เดินไปนู่นแล้ว”
ผมยื่นเศษแก้วให้แววตาดู “มาจากอันนี้มั้ย”
แววตารับไปดูแล้วจับๆ ดมๆ ส่องๆ ดู “ไม่นะคะ แต่ตอนนี้ก็ยังได้กลิ่นอยู่เลย หอมดีหนูชอบ”
ผมก็ยังไม่ได้คำตอบในกลิ่นหอมนั้นดังเดิม แต่เพิ่มเติมคือได้เพื่อนใหม่รุ่นน้องชื่อแววตา หน้าตาน่ารัก วาจายียวน ชวนขำได้ตลอด แต่ก็มีสาระดูลึกลับน่ารักดี
เพื่อนๆ คนอื่นเริ่มเดินมาทักทายแววตา ผมก็เลยหาที่นั่งแถวๆ นั้นรอเอนกไปพลางๆ
ส่วนมากของเก่าเหล่านี้ที่คนขุดขึ้นมาได้ คนก็เอามาขายกันแพงบ้างถูกบ้างไปตามเรื่องของเค้า แต่ในเชิงวิชาการมันกลับเป็นปัญหาเพราะที่มาที่ไปไม่ชัดเจน แต่ก็นะอะไรที่ระบุไม่ได้นักวิชาการก็ปัดทิ้งเสียมาก เอาเฉพาะที่มีประโยชน์กับตัว จนสิ่งสำคัญบางอย่างบางช่วงหายไปก็เยอะ บางทีความรู้ก็ไม่ได้ทำให้คนเรารู้อะไรมากขึ้น บางส่วนทำให้โง่ลง เพราะไปหลงรู้ก็มีมาก…แต่ยังไงวันนี้ผมก็ได้เพื่อนดีๆ เพิ่มมาหนึ่ง ชีวิตก็ดูมีอะไรมากแล้ว
สิ่งของชิ้นเล็กๆ เหล่านี้ จะพาเราไปเจออะไร จะเป็นอย่างที่คิดหรือจะเหนือความคาดหมาย
โปรดติดตามตอนต่อไป
– ญาตา –
Link : เสี้ยวหนึ่งในทวารปุระ Ep.3
Leave a Reply