…ก ว่ า จ ะ ม า เ ป็ น ค รู ส อ น โ ห ร า ศ า ส ต ร์ …
…ไ ม่ ไ ด้ ม า เ พ ร า ะ โ ช ค ช่ ว ย …
…แ ต่ ลุ ย ม า อ ย่ า ง โ ช ก โ ช น ..!
( E p i s o d e…6 )
…ประมาณปี 2544 นัวๆ ไปถึงปี 2545…
…ผมก็ผ่านเรื่องที่บังเอิญไปยุให้ผัวเมียเค้าตีกันโดยที่ไม่รู้ตัวไปล่ะ.. แต่ก็เกือบเอาตัวไม่รอด…
…คิดว่าต่อไปก็คงน่าจะเจอเรื่องดีๆ กะเค้าบ้างเน้อ…
…ช่วงนั้น พรบ. ห้ามสูบบุหรี่ในอาคารฯ ก็ออกมาสักพักแล้ว แต่สำหรับในห้างฯ ธนิยะ ก็ยังไม่ได้เคร่งครัดกันมากนัก…
…เพราะพวกญี่ปุ่นซาโจ้ ที่มันเช่าพื้นที่ออฟฟิศบนตึก มันยังนิยมการสูบบุหรี่เดินจุ๊ยอยู่เยอะ..
…ทีนี้ คนไทยสิงห์อมควันอย่างพวกเราก็พลอยได้รับอานิสงค์ไปด้วย..พอได้เดินดูดยืนดูดเนียนๆ ไปกับเค้า…
…บ่ายวันนั้น..ผมสังเกตเห็นชายวัยกลางคนคนนึงยืนสูบบุหรี่ ทำหน้าตาเคร่งเครียดอยู่คนเดียว
…สายตาเค้าที่มองออกไปนอกตึกนั้น เหมอลอยไปอย่างไม่มีเป้าหมาย .. ผมจับอาการได้เลยว่า คนๆ นี้ต้องมีปัญหาหนักอกมากๆ อย่างแน่นอน..
…สักพักนึง ชายคนนี้ก็มาเดินวนๆ เวียนๆ ที่หน้าสำนักงานของผม…ท่าทางกล้าๆ กลัว…ทำจดๆ จ้องๆ อยู่นานสองนาน
…ผมเลยตัดสินใจเดินเข้าไปเฉียดใกล้ๆ พร้อมส่งรอยยิ้มที่เป็นมิตรออกไป…เค้าก็เลยได้เอ่ยถามผมขึ้นมาว่า……”ดูดวงรึป่าวครับ ?”..
…และแล้วการผูกดวงก็ได้เริ่มขึ้น…”ชายคนนี้ เกิด พ.ศ. 2503 เวลานี้ ลัคนาก็ไปเกาะอยู่ราศีธนู “…ผมพรึมพรำๆอยู่ในคอ… (ลัคนา คือ ตัวที่จะบอกว่าเราเป็นคนราศีไหน ต้องใช้เวลาเกิดในวันนั้นๆ เป็นตัวคำนวน)
…มองในทางโหราศาสตร์…ดวงชะตาของคนที่เกิดในปี 2503-2504 จะมีข้อสังเกตที่น่าสนใจอยู่ตรงที่…
…ดาวพฤหัสบดี กับดาวเสาร์ ..โดยธรรมชาติของดาวคู่นี้ จะโคจรมาร่วมกันทุกๆ 20 ปี…กล่าวคือ หากถอยหลังกลับไป…
…ใน พ.ศ. 2483-2484 ..จะเดินโคจรมาร่วมกันในราศีเมษ
…พ.ศ. 2503-2504 ..โคจรร่วมกันในราศีธนูต่อเนื่องไปถึงราศีมังกร
…พ.ศ. 2523-2524 ..โคจรร่วมกันในราศีกันย์…
…พ.ศ. 2543-2544 …โคจรร่วมกันในราศีเมษต่อเนื่องไปถึงราศีพฤษภ…

…ซึ่งแนวทางการพยากรณ์ของดาวคู่นี้ ก็มีความหมายที่ชัดเจนอยู่ในหลายๆ เรื่อง
…ซึ่งครูโหรฯ ท่านได้ให้ key word ไว้ว่าเป็น “คู่ยืดเยื้อ”…
…ในดวงเมืองของประเทศไทยเรา ก็มีดาวคู่นี้อยู่ร่วมกันในราศีธนู ภพศุภะ…

…จึงทำให้ดวงเมืองดวงประเทศ มีการถ่วงดุลย์อำนาจกันมาโดยตลอด ..
…ครั้นเมื่อถึงคราวตกต่ำ ก็ไม่ต่ำถึงที่สุด ..แต่เมื่อครั้นคราวจะได้ดี ก็ไม่ได้ดีถึงที่สุดเช่นกัน…
…การก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง ก็ต้องก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยเช่นกัน…
…แต่ในส่วนที่ดีนั้น ก็คือมีส่วนที่ทำให้ประเทศของเรา ไม่ตกไปเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกในอดีตที่ผ่านมานั่นเอง…
…ซึ่งถ้าเป็นดวงชะตาคน ก็ให้สังเกตดังนี้…หากดวงชะตาใดมีดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์อยู่ร่วมราศีกัน…
…แล้วส่งผลถึงลัคนา หรือ จันทร์กำเนิด อาทิตย์กำเนิด ตนุเศษ หรือ ตนุลัคน์…ดวงชะตานั้นจะมีปัญหาที่ค้างคาใจ.. แก้ไขไม่ได้อยู่อย่างยาวนาน…โดยทั่วไปที่ผมได้พบ โดยมากก็เรื่องปัญหามรดก ที่พี่น้องตกลงกันไม่ได้……คนพี่จะเก็บ คนน้องจะขาย…ขัดแย้งผลประโยชน์กันเองในวงศ์ญาติ….บางรายก็ตัดใจจากคนรักเก่าไม่ได้ อะไรทำนองนี้ ..
…หรือไม่ก็เป็นการหวนคืนกลับมาของคนที่เคยรักกันตั้งแต่ในสมัยเรียน… ที่ห่างหายแยกกันไปแต่งงานตามวิถี..มีลูกมีเต้าเรียบร้อย แต่แล้วทั้งคู่ก็ล้มเหลวจากชีวิตสมรส…แล้วก็กลับมาเจอกัน เห็นอกเห็นใจกัน แล้วก็หันมาเริ่มต้นชีวิตกันใหม่…ฯลฯ
….ที่นี้ กลับมาที่ดวงชะตาคุณผู้ชายคนนี้กันดีกว่าครับ…
….ผมเอ่ยขึ้น “ขอโทษนะครับ ขออนุญาต ให้ผมเรียกชื่อคุณง่ายๆ ว่าอะไรดีครับ ” …
…ผมวิสาสะ ถามชื่อลูกค้าเพื่ออรรถรสในการพยากรณ์…..คุณผู้ชายตอบมาว่า “ชื่อ วรุต ครับ”…
…ปีที่พี่วรุตคนนี้มานั่งดูดวงกับผมก็ราวๆ ปี 2545 ซึ่งก่อนหน้านี้ ดาวพฤหัสฯ ก็จรไปคลอเคลียนัวเนียกันอยู่กับดาวเสาร์…..เพิ่งจะผละจากกันได้ไม่นาน แล้วดาวพฤหัสฯ ก็มาสร้างจุดบีบกับราหูในราศีเมถุน…ทำมุมหอกแล้วพร้อมจะเล็งใส่ราศีธนู…
…ก่อนที่ผมจะออกคำพยากรณ์ออกไป ผมก็ใช้เทคนิคการเช็คอิทธิพลดาว ในสูตรที่ครูบาอาจารย์สั่งสอนมา…..( ดีกว่า เช็คคุณภาพดาวจากชั้นนวางค์ หรือ นวางค์จักรเสียอีก…มีเวลาจะบอกให้อีกที )
…คือ ดาวคู่พฤหัสฯ กับดาวเสาร์นี่ หากส่งอิทธิพลต่อเจ้าชะตาโดยตรง จะส่งผลให้เจ้าชะตาจะต้องเคยกระดูกแขนขาแตกหัก บางรายก็ถึงเดินกระเผลกเลยที่เดียว..ในปัจจุบันจะเห็นว่า ใส่เหล็กกันอยู่มาก…
…หากเป็นดวงหญิง ก็จะต้องเคยแท้งลูก หรือตัดมดลูก อะไรพวกนี้ ฯลฯ
…ผมเลยถาม “พี่วรุตครับ พี่เคยกระดูกแตกใช่มั้ยครับ ?”…ได้คำตอบว่า…”ครับๆ กระดูกเท้าแตกครับ ตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ราชวิทย์ อุบัติเหตุตอนเล่นรักบี้ครับ ใส่เหล็กมาถึงทุกวันนี้ “…
…พอพี่วรุตตอบกลับมาแบบนี้ ผมก็รู้แล้วว่า ..ดาวคู่นี้ที่กุมลัคนาของแก มีผลต่อดวงชะตาแบบจัดเต็ม…
…พอเห็นดาวจรมานัวเนียนัวเนียอยู่ในราศีเมถุน ก็ปล่อยคำพยากรณ์ออกไปได้เลยว่า…
…”พี่กำลังล้มเหลวเรื่องครอบครัว”…ผมยิงตรงกะให้เม็ดเดียวให้เข้าเป้า ตายสนิทไปเลยครับ…
…พี่วรุตพยักหน้า “แหม คุณหมอนี่ ไม่มีอารัมภบทเลยนะครับ ดีครับผมชอบ”….แล้วพี่วรุต ก็ตั้งใจฟังคำพยากรณ์ต่อ…
…เรื่องของพี่วรุต มีอยู่ว่า…
…ณ เวลานั้นพี่เค้าเป็น นายกสมาคมฯ กีฬาประเภทหนึ่ง…ลูกสาวของแกสองคนก็เรียนอยู่ในระดับมัธยม…
…เมียแกก็มานอกใจ คบชู้…หนีตามชู้ไปกับรถสปอต บี-เอ็ม พร้อมเงินสดในบัญชี ห้าล้านบาท…
…แรกๆ แกคิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่พอเห็นหน้าลูกสาวทั้งสอง ก็เปลี่ยนใจ…เรื่องที่เครียดของแกในขณะนี้ก็คือ…..จิตใจของลูกสาวแกที่ขาดแม่มากกว่า…ลูกสาวทั้งสองของแก ไม่รู้ในสิ่งที่แม่ได้กระทำ…
…ถามพ่อทุกวันว่า…”แม่ไปไหน ?”…ทุกครั้งที่พี่วรุตได้ยินลูกถามถึงแม่ แกก็ได้แต่นิ่งเงียบน้ำตาคลอ…
…แล้วก็ตอบด้วยคำตอบซ้ำๆ ว่า…” แม่เค้าไปต่างประเทศเพราะธุรกิจเรามีปัญหา ไม่นานก็จะกลับมานะ”…
….ผมนั่งฟังแกระบายความในใจอยู่พักใหญ่…ไม่น่าเชื่อนะครับ มีลูกกันสองคน ผู้หญิงกลับหนีตามผู้ชายไปได้..
…จากนั้น ผมก็พยากรณ์อนาคตของแกต่อไป…
…”อีกไม่นานนี้ พี่จะได้พบกับผู้หญิงคนใหม่นะครับ”…ผมเองก็ไม่รู้ว่าเป็นการพยากรณ์หรือปลอบใจลูกค้าก็ไม่รู้นะ……”โอ้ยยย !!..ไม่เอาแล้วล่ะครับคุณหมอ…ยังทำใจไม่ได้”…พี่วรุต ตอบปฎิเสธ..
…เออเอาเหอะครับ ตอนนี้ยังพูดได้ แต่คนเราอ่ะนะ โดยเฉพาะผู้ชายหากเจอคนถูกใจขึ้นมาเมื่อไหร่…เห็นใจอ่อนทุกรายไป…
…หลังจากที่พี่วรุตกลับไป ผมก็คิดสงสารพี่เค้า…ทำไงถึงจะพอที่จะหาวิธีช่วยพี่เค้าได้บ้างว้าาา…
…แล้วผมก็คิดถึง น้องจิน…หญิงสาวหน้าตาดีหุ่นโอเค ที่เคยมาดูดวงกับผม เกิด พ.ศ. 2516 ตอนนั้นอายุก็ประมาณ 28-29..มันเพิ่งจะอกหักมา แล้วเราก็ทายมันไว้ว่า…มันมีโอกาสจะเจอคู่แท้ ในไม่ช้านี้…
…แต่เอ๊…มันก็ไม่ง่ายนะ กับการที่จะทำให้คนสองคนมาเจอกัน…
…แล้วถ้าเจอกันแล้ว จะรักกัน เข้ากันได้รึป่าว….โอยยย..คิดแล้วก็ปวดหัว ถอนตัวเลยดีกว่า ไม่ยุ่งดีกว่า…ลืมๆมันไป
…แต่บุญทำกรรมแต่ง…อีกแล้วครับท่าน…
…มาม่าซังที่ดูแลบาร์ญี่ปุ่นที่สนิทกับผม ได้ให้ผมเป็นเหรัญญิกกองผ้าป่าฯ ที่จะไปทอดกันที่โคราช…
…ผมเลยลองโทรไปชวนพี่วรุตกับน้องจิน โดยเอาเรื่องทำบุญมาบังหน้า อิอิอิ…ละบอกว่า สร้างบุญสร้างกุศลในช่วงนี้ …ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี ชีวิตจะดีขึ้น…แล้วทั้งคู่ก็ตอบตกลง…
พอมาถึงวันที่จะไปงานผ้าป่า พวกเราก็มาขึ้นรถบัสตามที่นัดหมายกันไว้…
…นานๆ จะได้เห็นเศรษฐีเดินขึ้นมาโดยสารรถร่วมกับคนอย่างพวกเราๆ
…พี่วรุตแกก็ตั้งใจจะมานั่งกับผม แต่ก็ไม่ทันน้องจินมันแซงมานั่งก่อน……ตลอดเส้นทาง น้องจินมันก็สะเงาะสะแงะอยู่กับผม…
…”พี่หมอ พี่หมอ ดูลายมือให้หนูหน่อยจิ”…ยื่นมือเข้ามาแทบจะทิ่มลูกกะตา….
…ผมนึกในใจ…อีนี่นี้ กูกำลังจะหาผัวให้มึงให้เป็นเรื่องเป็นราว..ใจเย็นๆ ได้มั้ยว่ะ..
…ผมก็ดูลายมือให้น้องจินมันไปพลางๆ เพราะกว่าจะถึงโคราชคงอีกนาน…
…”นี่ๆ เห็นเส้นเล็กๆ ที่ขึ้นมาข้างๆ เส้นวาสนามั้ย..ถ้าเส้นนี้ขึ้น แสดงว่า ใกล้จะได้ผัวละนะ”…แล้วอีนังจินก็ยิ้ม หน้าบาน “จริงหราาาาาาาา” จากนั้นก็ถามต่อ..” แล้วจะรวยมั้ย ดีมั้ย หล่อมั้ย ไปเรื่อย”…ผมนึกในใจ แหม มึงนี่ก็เยอะนะ…ละก็บอกไปตามที่เห็น “รวยซิ เส้นแดงๆ อย่างเนี้ย แปลว่าดี “..ผมก็ขยายความต่อ…ส่วนน้องจินก็ต่อปากต่อคำ…..”กระทืบหนู แบบไอ้คนเก่า หนูไม่เอาแล้วน้าาาา จารย์”..นู่นนี่ของนางไปเรื่อยตลอดทาง
…พอถึงวัด ทางวัดกับชาวบ้านก็ตั้งแถวรับขบวนผ้าป่าฯ อย่างจัดเต็ม…ไอ้ผมก็ดันไปดูด ” อุ ” …เหล้าท้องถิ่นที่ชาวบ้านยื่นให้สะหลายอึก….ชาวบ้านเห็นสภาพผมเผ้าหน้าตาผมเข้า ก็เรียกผมว่า ” พี่คาราบาว “..งานเข้าเลยกู..
…อุ เป็นเหล้าที่อยู่ในไห มีแกลบปิดด้านบน เวลาจะกินก็ต้องใช้ไม้ซางแทงให้พ้นชั้นแกลบลงไป แล้วก็ดูดกิน.. ผมเป็นคนธาตุไม่ค่อยดี…ท้องเสียง่าย…เพราะในดวงชะตาดาวพุธอยู่ร่วมกับดาวบาปเคราะห์ในธาตุไฟ…พักเดียวเท่านั้น ผมต้องรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ…จู๊ดๆๆๆ แทบไม่ทัน
…พอเสร็จกิจ ผมก็เดินออกมาจากห้องน้ำมาตามหา พี่วรุต กับน้องจิน..
…ผมเดินผ่านห้องครัวของวัด มองเห็นพี่วรุต กับน้องจิน ไปนัวๆ ช่วยแม่ครัวทำกับข้าวกันอยู่ คงไม่รู้จะไปไหนกัน……ผมก็เลยเดินตามเข้าไป…พออีนังจินมันเห็นผม มันก็กระดี๊กระด๊าใหญ่ “พี่หมอๆ ไปไหนมา”…ผมกระซิบไปเบาๆ…..”กูขี้แตกเว้ย” …ผมก็แอบมองพี่วรุต สังเกตเห็นแกแอบมองน้องจินหลายครั้ง คิดเอาว่าแผนการของผมน่าจะสำเร็จ…อิอิอิ
…เราก็ร่วมกิจกรรมต่างๆ กับชาวบ้านไม่ว่าจะทำอะไร…น้องจินมันเกาะติดผมไม่ห่าง จนชาวบ้านและคณะผ้าป่าฯ…..เข้าใจว่า มันกับผมเป็นแฟนกัน…รวมถึงพี่วรุตด้วย…
…ตกค่ำทางวัดฯ จัดดนตรีมีการละเล่นอย่างเอิกเกริก …จะเรียกหมอลำซิ่ง หรือ โอ้นโต้น หรือ ระบำจ้ำบ๊ะ อะไรผมก็เรียกไม่ถูก…ดนตรีก็เล่นไป ชาวบ้านก็เต้นก็ดีดดิ้นกันไป สนุกสนาน…ประหนึ่งเหมือนไส้เดือนโดนขี้เถ้าสะอย่างนั้น…
พอผมจึงได้จังหวะ ก็เปิดประเด็นกับน้องจินในเรื่องพี่วรุต..เชิงทำตัวเป็นพ่อสื่อพ่อชัก…
…นังจินตอบกลับมาทันควัน “แว๊…แก่อย่างก๊ะลุง หนูไม่เอาหรอก พี่หมอหาคนอื่นให้เค้าเหอะ”….มันปฎิเสธเสียงแข็งแบบไม่คิดเลยที่เดียว..
…ตกดึก ดนตรีก็จบการแสดงลงเพราะวัยรุ่นตีกันตามระเบียบ…คณะผ้าป่าฯ ของเราก็แยกย้ายกันไปนอนบนศาลาหลังใหญ่ของวัด…ชายฝั่งนึง หญิงฝั่งนึง..
…ศาลาที่นอนมีลมโกรกแรงมาก ทำให้ไม่มียุง…ผมก็เข้าไปนอนข้างพี่วรุต แล้วส่งกระดาษที่จดเบอร์โทรน้องจินให้…” น้องจินเค้าสนใจพี่นะ แต่ไม่กล้าบอกพี่ ให้ผมมาเป็นพ่อสื่อ”…ผมก็ตอแหลขั้นเทพไป…
…”อ้าว น้องจินตัวขาวๆนะเหรอ ? เค้าไม่ได้เป็นแฟนคุณหมอรึ ? “…พี่วรุต พูดแบบรวนๆ ปนตื่นเต้นหน่อยๆ..
…”ฮื่อ..ไม่ได้เป็นแฟนผม เพียงแต่มันก็ไม่รู้จะไปคุยกับใคร ก็มันไม่รู้จักใครสักคน”…ผมตอบ..
…”จะว่าไป คนอาราย ขาวโบ๊ะ ขนาดนั้ “…งูตัวเล็กๆ เริ่มโผล่ออกมาจากหัวคุณพี่ซะแว้วววว…
…ผมได้ช่องเลยรีบชงต่อ..”ใช่ ขาวจั๊ว น่าเจี๊ยะ ..ถ้าปล่อยให้หลุดไปล่ะก็ เสียดายแย่เลย นะคุณพี่”…แล้วก็ต่างคนต่างนอนหลับกันไป
…เช้าแล้ว เราก็แย่งกันเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน…
…น้องจินก็แต่งตัวสวย เดินเฉิดฉายออกมาประกบผมเหมือนเดิม…พอสายๆ ทุกคนก็เข้ามารวมพล ถวายผ้าป่าฯ.. ผม ซึ่งมีหน้าที่เป็นเหรัญญิก ก็ต้องเสนอหน้าอยู่ไม่ห่างกองผ้าป่าฯ…คอยนับเงินแจ้งยอด…
…ประเพณีที่ขาดเสียไม่ได้ สำหรับการทอดกฐิน หรือการทอดผ้าป่าฯ ก็คือ การต่อยอด…ต่อยอดเงินบริจาค..
…หลายคนก็ต่อยอดกันไป ห้าร้อย พันนึง…พอคนเริ่มจะซาเสียงลง พี่วรุตแกก็ตะโกนออกมา..” สามหมื่น “…
…พอน้องจินได้ยิน ก็ยื่นหน้าเข้ามากระซิบผมว่า “อวดรวย”….ผมก็ปรามว่า “ในวัด ห้ามนินทาว่าร้ายใคร เดี๋ยวเกิดชาติหน้า ปากจะเหม็น”…มันรีบหดหน้ากลับไปนั่งปิดปากนิ่งเงียบ..
…เสร็จภารกิจฯ เราก็พากันเดินทางกลับ..รถบัสที่นั่งมาขับไปส่งเราที่ ถนนธนิยะ…พี่วรุตแกจอดรถไว้ที่ตึกฯ..
…ผมเลยได้ช่อง จัดการให้น้องจินไปขึ้นรถคันหรูของพี่วรุต…”พี่ครับ พี่ไปส่งน้องเค้าหน่อยนะพอดีมันทางเดียวกัน “…ทางเดียวกันจริ้งงงงจริง… น้องจินบ้านอยู่บางแค ส่วนพี่วรุตบ้านอยู่สวนหลวงครับ…
…ไม่กี่สัปดาห์ ผมเองก็ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว เพราะงานเราก็เยอะ…
…จู่ๆ พี่วรุตก็โทรมาหาผม บอกว่าน้องจินเข้ากับลูกสาวเค้าได้เป็นอย่างดี…
โอ๊ะๆๆๆ “อะไรกันนี่ เผลอแป๊บเดียว ไปมาหาสู่เข้าบ้านเข้าช่องกันแล้ว”…ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่แสร้งว่า ประหลาดใจ…
…วันหนึ่ง พี่วรุต กับ น้องจิน ก็แวะมาหาผม ชวนผมไปกินข้าว…เหมือนกับจะมาขอบคุณที่ผมช่วยเป็นพ่อสื่อพ่อชักให้…
…วันนั้นผมดีใจมากนะครับ มันตื้นตันไงไม่รู้บอกไม่ถูก…พี่วรุต กับน้องจิน ถึงจะต่างวัย ต่างฐานะกัน…
…แต่ทั้งสองก็มาเติมเต็มให้กันได้ อย่าง แฮปปี้ เอ็นดิ้ง….
…ผมไม่รู้หรอกนะว่าสิ่งที่ผมทำไป จะเรียกว่าผิดหรือถูก…แต่ผมคิดว่า โลกนี้มันมีความเหมาะสมที่พอดีของคนสองคนอาจจะด้วยชะตา ด้วยบุญหรือด้วยกรรมนำพาก็แล้วแต่ ถ้าคนสองคนนี่เค้ามีความสุขและเข้าใจกันได้ชีวิตเค้าทั้งสองย่อมสดใสขึ้นแน่นอนครับ
…เรื่องราวการผจญภัยบนเส้นทางโหราศาสตร์ ยังอีกยาวไกล…โปรดติดตามตอนต่อไป

Leave a Reply