ครีเอทีพสุดเซอร์..สู่สายโหรสุดแซ่บ Ep. 2

creative

..ก ว่ า จ ะ ม า เ ป็ น ค รู ส อ น โ ห ร า ศ า ส ต ร์ …

…ไ ม่ ไ ด้ ม า เ พ ร า ะ โ ช ค ช่ ว ย …

…แ ต่ ลุ ย ม า อ ย่ า ง โ ช ก โ ช น ..!

( E p i s o d e…2 )

…จากปฐมบทตอนที่แล้ว ผมก็เดินมาถึงจุดที่ควรนับว่าหนึ่ง…ในปีช่วง พ.ศ. 2533 ..

…ซึ่งก่อนหน้าที่ผ่านมา  ถือว่าเป็นการฝึกเล่นมวยวัด  แค่มีความสนใจลองผิดลองถูกไปวันๆ…ก็เท่านั้น…

…ส่วนความมุมานะที่จะต้องศึกษาวิชาโหราศาสตร์  ได้เกิดขึ้นในใจของผมอีกครั้ง…

…จากปัจจัยหลายๆอย่างที่ได้พบเจอ และโอกาสที่หยิบยื่นเข้ามา แบบที่เราไม่ได้ตั้งใจ

…ผมเที่ยวตระเวนหาตำราโหราศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นของ

…อาจารย์บุศรินทร์ ปัทมคม , พลูหลวง , ศ.ดุสิต , อ. พฤกษ์ ,อั้น สาริกบุตร ฯลฯ

…ตำรามหาทักษา มหาภูติ อินทภาษฯ , กาลจักร, จักรทีปนี , ไม่ว่าอะไรตามหา ตามซื้อมาอ่าน…

…ศึกษาทั้งราศีจักร นวางค์จักร …โหราศาสตร์ภาคดาราศาสตร์ และ ภาคพยากรณ์…เอาแม่งทุกอย่าง..ออกแนวบ้า..!! ประมาณนั้น

…เขษมบรรณากิจ ที่เวิ้งนครเขษม และ แพร่พิทยา เซ็นทรัลลาดพร้าว…จะเป็นที่ๆ  ผมฝังตัวอยู่ในช่วงวันหยุด…

…ช่วงนั้น  การงานดีมาก  ฐานเงินเดือนก็สูง  การที่จะควักกระเป๋าจ่ายค่าหนังสือ  พันกว่าบาท  ทุกสัปดาห์

…สำหรับผม ตอนนั้นไม่ได้สะเทือนอะไร…..ในช่วงปี พ.ศ. 2533  คนหนุ่มคนสาววัยเริ่มทำงานมีเงินเดือนถึงหมื่นห้า บวกโอที..ก็จัดว่าเงินเดือนดีมากๆ แล้วครับ…

…คอลัมน์โหราศาสตร์ในนิตยสาร วรสารรายเดือน รายสัปดาห์ที่ดีๆ มีคุณภาพ ในยุคนั้นก็จะมี

….หนังสือพิมพ์มติชน , โหรเวศน์, ดวงเศรษฐี ( ปัจจุบันเป็นหนังสือใบ้หวยไปละ )..

…ก็เก็บก็ตามอ่าน…เกล็ดเล็กเกร็ดน้อย เก็บเรียบอย่าให้เหลือ…

…กลับจากทำงานทุกวัน จะต้องนั่งอ่านหนังสือให้ได้วันละ 2 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ..หากวันไหนไม่ได้อ่าน ต้องทดเวลาไป

…แต่แล้ว…การบริโภคความรู้มากเกินไปของผม ก็ไม่ได้ส่งผลดีให้กับการศึกษาเลย…

…แต่มันกลับเป็นผลร้ายมากกว่า เรียกว่า…” ยาพิษ ” เลยก็ว่าได้…เพราะวิชามันเกิดความขัดแย้งกันในตัวเอง..  ในสมองของผมเกิดอาการ error ไม่รู้จะเชื่ออะไรดี ตกลงเราจะเอาอะไรมาจับทาง..ดี

….เหมือนจะเก่ง เหมือนจะรู้เยอะ แต่ก็ก้าวขาไม่ออก …เหมือนคอมฯที่โหลดโปรแกรมมาเกินกว่าแรม ที่มีอยู่…แบบว่าอาวุธเยอะ แต่เอาออกมาฟันศัตรูไม่ได้ ได้แต่ขู่ฟ่อๆ…” อาวุธกูเยอะนะ มึงอย่าเข้ามานะ “…( จริงๆกูชักดาบไม่ออก ) 555

…ตกอยู่ในสภาพ ” หนอนหนังสือ ” …ไม่ใช่ผู้รู้จริง…อยู่พักใหญ่ …

…ชีวิตก็เหมือนขอนไม้ลอยน้ำ ไม่รู้มันจะลอยไปติดเกาะแก่งตรงไหนบ้าง…

…วันหนึ่งก็ได้มีโอกาสได้ไปทำร้านอาหารที่ ม. หอการค้าฯ ถนนวิภาวดีฯ…ตกเย็นก็แวะเข้าร้าน…

…โอ้โห !!..แม่เจ้านักศึกษาเยอะแยะไปหมด…ผมนี่รีบขึ้นป้ายเลยทันที …” ดูดวงฟรี “…เพื่อหวังที่จะได้ลองวิชา

…หนูทดลองเพียบ !!…แถมยังได้โปรโมทร้านไปในตัวด้วย…คนต่อคิวยาวไปถึงหัวถนน…นู่นนน

…จนคนแถวนั้นนึกว่ากระผม แจกฟรี…!!…

…ผ่านไปสักระยะ ก็มานั่งคิด…” กูมาถูกทางมั้ยเนี้ย ? “…เด็กนักศึกษา ชีวิตยังแบมือขอเงินพ่อแม่ ..

…งานการก็ยังไม่รู้ว่าจะไปลงตัวที่ไหน ?…มันพิสูจน์ความจริงอะไรไม่ได้เลย..นอกจากเรื่อง ” แฟน “..

…ไปๆมาๆ มันก็แค่ปริมาณ ไม่ใช่คุณภาพ…เราเดินมาแบบหลงทางอีกแล้ว…

…บุญทำกรรมแต่งอีกครั้ง…วันหนึ่งโชคชะตาก็พาให้ผมมาพบกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ที่ ” หลักสี่พลาซ่า ”

…( ปัจจุบันคือ ไอที สแควร์ )…ชื่อ ” อาจารย์จีรพันธ์ “..ท่านเป็นข้าราชการบำนาญ ที่มานั่งดูหมอแก้เหงา …

…ผมเห็นท่านครั้งแรก ก็นึกถูกชะตา จึงเข้าไปขอดูดวง ท่านก็ดูดวงให้ผม

….ท้ายสุดผมก็ตัดสินใจขอฝากตัวเป็นศิษย์กับท่าน ด้วยคำพูดจากปากท่านเพียงไม่กี่ประโยค……ท่านบอกว่า…” ดาวอะไรเด่น คนมันก็จะมีความสุขจากดาวดวงนั้นนั่นแหระ เช่นอาทิตย์เด่นมันก็อยากให้คนมากราบไหว้เทิดทูน ”

…. แถมอีกประโยค ” ไม่ต้องไปท่องหรอกตำรา ที่เค้าเขียนให้เอ็งอ่านนะ มันสอนให้เอ็งรำมวย ไม่ได้สอนให้เอ็งชกมวย “…

…ท่านไม่รับค่าสอน ท่านสอนให้ฟรี แต่ผมจะต้องไปกวาดบ้านถูบ้าน ตัดต้นไม้ให้แก…ผมก็เต็มใจทำ…

…บ้านท่านอยู่ที่บางใหญ่ เสาร์อาทิตย์เราก็ต้องตะกายไป…วันหนึ่งท่านได้เอ่ยว่า…

…” เอ็งเห็นผู้ชายที่เพิ่งเดินออกไปมั้ย เค้าเป็นถึงตำรวจสารวัตรใหญ่ ยังอุตส่าห์แบ่งเวลามาล้างจานให้ข้าเลย…..เอ็งแค่กวาดบ้าน ก็กวาดต่อไปเถอะ “.

..มีคนมาเรียนกับท่านฟรีๆ หลายท่านนะ แต่ท่านก็เลือกคนที่จะสอน

…ตลอดเวลา ท่านไม่ได้สอนให้เราจำ ไม่ได้สอนให้เราเชื่อ แต่ท่านสอนหลักให้เราวิเคราะห์ และประยุกต์ให้ทันสมัย  ตัดวิชาที่รกรุงรัง ใช้งานไม่ได้ วิชาที่นั่งนับนิ้ว วนไปวนมาออกให้หมด…เหลือแต่แก่นที่เป็นความจริง..

…เรียกว่า สอนให้ชกมวย ชกตรงไหนหมัดเดียวให้ผู้ต่อสู้ตัวงอ…ไม่ใช่สอนให้รำมวยโชว์ให้ฝรั่งดู…

…การศึกษาวิชาโหราศาสตร์ของข้าพเจ้าพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทีนี้แยกแยะได้ว่า อะไรคืออาหาร อะไรคือ ขยะ..!!  ที่นี้เราแยกเกลือกับน้ำตาลออกจากกันได้   จะศึกษาจะวิเคราะห์จะทายจะทักอะไรมันก็ดูคล่องตัวขึ้น

…ท่านได้เดินจูงมือเราออกจากความมืดจริงๆ…เสียที

…เวลาเดินผ่านไปเร็วเหลือเกิน…ย่างเข้าต้นปี พ.ศ. 2539 แล้ว…บริษัทที่ผมทำงานอยู่กำลังเติบโต…

…ผู้จัดการใหญ่ฯ เดินมาคุยกับผม ด้วยสำเนียงไทยที่ไม่ค่อยแข็งแรง ” เฮ้ย ยู..ยูเคยได้ยินชื่อ ดร.ทักษิณ ชินวัตรมั้ย? ”  ผมไม่ได้สนใจจะฟัง เลยตอบกับไปว่า ” เคยได้ยินแต่ ชินวัตรไหมไทย อยู่แถวๆ ถนนศรีย่าน เกี่ยวกันมั้ยครับ ? ” …ไอ้ ผจก. มันก็พูดต่อว่า ..

…” บริษัทเรากำลังจะทำหนังสือชี้ชวนให้กับหุ้นฯชินวัตร  แล้วบริษัทเราจะรองรับงานใหญ่ของกลุ่มเค้า ”

…ผมทำท่าไม่สนใจ…ไม่ตื่นเต้น ..มันก็เลยเดินหนีไป..แบบเสียฟอร์ม..

…พนง. รุ่นพี่คนหนึ่ง เดินมา…” ไหนๆ คุณหมอใหญ่ดูดวงบริษัทฯหน่อยซิว่า  ปีหน้าจะเป็นไง  จะรุ่งมั้ย ? “…

…ผมก็ตอบสั้นๆ กลับไปว่า…” เตรียมตัวหางานใหม่กันได้ละครับเมิงงง บริษัทแม่งเจ๊ง !! “…

…พนง.รุ่นพี่คนนั้นก็สวนกลับมาทันทีเลยว่า…” อ้าว ไหงคุณหมอพูดหมาๆอย่างงั้นล่ะครับ “…

…แต่ดูเหมือนคำพูดของกระผม ดูเหมือนจะมีอิทธิพลกับบริษัทมากนะครับ…

….เพราะคนในออฟฟิศ มองผมว่าเป็น ” พ่อหมอ ” ไปซะแล้ว…ทีนี้ พอคนในออฟฟิศเม้าส์กันไปกันมา…

…เรื่องก็ไปถึงหูอีนังเลขาฯ ตัวแสบ…ผจก. แมร่งเรียกผมไปปิดห้องเลย

…แต่ก่อนที่จะรู้ว่า ไอ้ผจก. มันด่าอะไร…เรามาดูกันว่า ผมหยิบเอาอะไรมาพิจารณาว่าบริษัทจะปิดตัวลง

…ทั้งๆที่ บริษัทเรากำลังจะมียอดบิลลิ่งที่สูงมากในปีหน้า…( ทุกคนเข้าใจไป กับสิ่งที่เห็นนะครับ )

…ขณะที่มีเรื่องกันอยู่นี้ เป็นช่วงไตรมาสแรกของปี 2539 …

…แต่ในเดือนธันวาคมของปี พ.ศ. 2539 ต่อเนื่องไปจนข้ามเข้าปี พ.ศ. 2540…

…เกิด ” สัมสัปต์ร้าย ” โจรเข้าบ้านพระ พระเข้าบ้านโจร “…คือ ดาวเสาร์จรเข้าเรือนพฤหัสฯ แล้วดาวพฤหัสฯจรเข้าเรือนเสาร์  ในทางดวงเมือง  จะต้องพยากรณ์ว่า ” เศรษฐกิจตกต่ำ “…

…ในบริษัทที่เราทำงานอยู่ ส่วนใหญ่ ก็จะมีคนรุ่นที่เกิด ปลาย 06 ต้น 07 กันเกินครึ่งบริษัทฯ…

…คนรุ่นนี้ จะมีดาวเกษตรสองดวงกันทุกคน คือมีดาวเสาร์ในราศีมังกร และมีดาวพฤหัสในราศีมีน…

…เท่ากับว่า ได้รับพิษจากการสัมสัปต์โดยตรง…

…ลักษณะงานที่ทำกันอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนงานกันง่ายๆในยุคนั้น…

…พิษของสัมสัปต์ในครั้งนี้ จะส่งผลให้คนตกงาน….คนตกงานพร้อมกัน ก็มีทางเดียวที่ต้องมองก่อนคือ…

… บ ริ ษั ท มี โ อ ก า ส ที่ จ ะ ปิ ด ตั ว ล ง …

…ที่นี้ตัดภาพกลับมาในห้องประชุมเล็ก ที่ผม โดนไอ้ ผจก. บ้าพลังแมร่งนั่งด่าผม ปาวๆๆๆ…

…” เฮ้ย ยู พูดอย่างงี้ เท่ากับว่า ยู ทำลายบริษัทนะ “…

…เออ ไอ้หมอใหญ่อย่างผม กลัวสะที่ไหนล่ะ ก็ค่อยๆ อธิบายให้มันฟัง ด้วยเหตุผลทางโหราศาสตร์…

…ดูมันก็สงบลง…แล้วบอกให้ผมกลับไปทำงาน แล้วเลิกพูดอะไรที่เป็นเรื่องอัปมงคลเกี่ยวกับบริษัทอีก…

…พอก้าวเข้าปี 2540… ” ฟ อ ง ส บู่ ก็ แ ต ก ก ร ะ จ าย “…!!…

…ไอ้ผจก. ที่เมื่อวันก่อนมันนั่งด่าผม มันโวยวาย เดินจ้ำมาบอกกับผมว่า…

…” เฮ้ย ยู ยู ยูไม่ต้องทำงานละ ยูทำอะไรก็ได้ สวดมนต์ก็ได้ ทำอย่างไงก็ได้ อย่าให้บริษัทปิด “…

…ผมฟังแล้วผมก็ขำ….นึกในใจ..ไอ้เวร…เอ๊ย !! มันจะได้มั้ยล่ะครับ

…ผลสรุปคือ…ทุกคนโดนลอยแพ…แยกย้ายกันไปทำมาหากินเอาตัวรอดกันไปครับ…

…และนี่ก็ถึงเวลาที่เป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของผมอีกครั้ง…

…ฟ้าได้ลิขิตให้ผมต้องเดินออกมาเป็น ” หมอดูอาชีพ ” แล้วใช่มั้ย ?..

…เพื่อนฝูง ก็เปิดร้านอาหาร เปิดผับ อยู่ในซอยย่านถนนนราธิวาส  ในยุคนั้น นักเที่ยวราตรี ต้องสัญจรไปแถบนั้นกันทั้งสิ้น…ผมก็ถือกระเป๋า ไปแฝงตัวนั่งหาลูกค้าดูดวง

…ในราคา 300 บาท/คน…หักให้ร้าน 100 นึง…เบ็ดเสร็จผมได้ 200 บาท / หัว..

…ไปนั่งใหม่ๆ ไม่ค่อยมีคนดู บอกตรงแมร่งเอ๊ย..โคตรจะอายเลย ..จากหนุ่มออฟฟิศ ต้องกลายมาเป็นหมอดูเร่ร่อน…สุดๆ  จนมีคนเอาผมไปซุบซิบว่า ” ไอ้พวกโดนลอยแพ ตกงานแล้วก็ผันตัวมาเป็นหมอดู “…

…พอได้ยินแล้วมันขึ้นเลยครับ…ฟังดูเหมือนจนตรอกอย่างไงก็ไม่รู้…

…เพื่อนรักคนนึงของผม มันพูดให้สติผมว่า….” คนพวกนี้ เกิดมาเพื่อแย่งออกซิเจนคนข้างๆ…วันๆ ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร…อยากให้คนยอมรับตัวเอง แต่ตัวเองไม่เคยให้เกียรติใคร  ปล่อยให้มันตกต่ำและตายไปเองเถอะเพื่อน…

…เราก็ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร “…

…ผม ได้เริ่มต้นการเป็นหมอดูอาชีพที่ผับ ของเพื่อนผม…ในครั้งนั้น ด้วยกำลังใจ..เปี่ยมล้นจากเพื่อน

…จากที่ไม่มีลูกค้าเลย ก็กลายเป็นต้องพูดทั้งคืนไม่หยุด…รายได้เฉลี่ยคืนละ สองพันบาท ..

…ในขณะที่เพื่อนหลายๆคนยังตกงานอยู่…

…ชีวิตบนเส้นทางหมอดู แบบหนอนหนังสือ แบบผู้ลองผิดลองถูก แบบผู้ที่มีแต่ทฤษฎี…10 ปีผ่านไป..

…ณ วันนั้น วันที่เศรษฐกิจพังฟองสบู่แตกเมื่อ พ.ศ. 2540 …จนก้าวเข้ามาเป็นหมอดูอาชีพแบบจริงจัง จะเป็นอย่างไร

…20 ปี จากวันนั้นถึงวันนี้ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ…มันมีขึ้นมีลง มีความเปลี่ยนแปลงขนาดไหน…

…สิ่งที่เรารู้มาจากตำรา กับความเป็นจริง มันมีอะไรบังอยู่….โปรดติดตามตอนต่อไป

…เดี๋ยวจะเล่าต่อให้ฟัง แบบสอดแทรกประโยชน์ทางวิชาโหราศาสตร์ และประสบการณ์ตรงในตอนต่อๆไป

พราหมณ์เมศ
อ.พราหมณ์เมศ วาสุเทพ

 

Link : ตอนที่ 1 ครีเอทีพสุดเซอร์ สู่สายโหรสุดแซ่บ

Link : ตอนที่ 3 ครีเอทีพสุดเซอร์ สู่สายโหรสุดแซ่บ

Leave a Reply

%d bloggers like this: