คนบางประเภท ไม่เคยชมใคร

คนบางประเภท เลียสะจนเอียน

คนบางประเภท เสียดสีคนอื่นจนเคยชิน

คนบางประเภท ขอให้ได้ติชีวิตจะเปนสุข

เหล่านี้ล้วนเป็นกลุ่มตัวอย่างของคนปากไม่ค่อยดี มันจะมีปลีกย่อยมากกว่านี้ ซึ่งก็พอจะเดาๆกันได้ ในสังคมหน้ากาก พาดฟันกันเพื่อการแย่งชิง คงเห็นๆ กันอยู่ ถ้าเป็นคนที่มีอิทธิพลหน่อย  คนอื่นก็อวยๆ  กันไป หันหลังก็เบ้ปาก 3 รอบ เค้าก็ทำกันแบบนั้น เพราะมันทำให้อยู่รอดได้ไปวันๆ

แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องกล่าวถึงคือ…คนพวกนี้เค้าไม่รู้ตัว  เพราะอะไร!!!  เพราะว่าคนรอบตัวเค้า ไร้ซึ้งความจริงใจให้กับคนพวกนี้  โกหกในสิ่งที่เค้าทำไม่ดีแย่ๆ ทั้งหลายว่ามันดีงาม คนพวกนี้ก็ไม่มีปัญญาจะพิจารณาหลงอยู่ในมายาหลอกลวง ก็ล้วนน่าสมเพชของผู้พบเห็น  เพราะอะไรถึงต้องใช้คำนี้ เพราะคนในสังคมเค้ารู้ดี  ว่า  คนพวกนี้ล้วนแล้วแต่ทำลายตัวเองตลอดเวลา  คนดีๆ  รอบตัวล้วนหนีหาย  คนจริงใจทำสิ่งใดให้  ก็มักจะได้รับการเสียดสีแดกดันด้วยคำต่ำๆ  ตามระดับจิตของคนเหล่านั้น  คนชั่วรอบตัวก็คอยเป่าหูกีดกันคนดีๆ ให้ออกไปไกลๆ  จากชีวิต

นั่นคือ  สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเรื่องจริงที่คนได้แต่ปล่อยไป  จนสังคมมีแต่คนแบบนี้เดินไปทั่ว  แล้วก็ได้แต่บ่นลับหลัง  ถ้าเราไม่อยากเจอคนพวกนี้  เราต้องไม่สร้างคนพวกนี้ขึ้นมาเพิ่ม

และการทำสิ่งใดๆ ให้คนพวกนี้ โดยหวังว่า คนพวกนี้จะชื่นชมเห็นชอบ หรือจะดีด้วย มีความคาดหวังต่างๆ นาๆ นั้น เป็นความคิดที่ผิด สิ่งที่เหมาะกับการทำงานหรืออยู่ร่วมกับคนเหล่านี้ คือ ต้องใส่หน้ากาก อย่าใส่ใจ ทำเพียงเพราะมันดีกับส่วนรวมก็พอ เพราะอย่างไรแล้วคนพวกนี้ก็ไม่เคยเห็นใครดี เค้าจะใช้วิธีมองคนอื่นให้ต่ำ เพื่อปลอบใจตัวเองว่าตนสูง ทั้งๆ ที่ ก็มักจะรู้ๆ กันดีอยู่แล้ว

หากใครต้องเจอคนกลุ่มประเภทนี้  ถ้ายังต้องมีอะไรเกี่ยวข้อง ให้หัดใส่หน้ากาก สวมหัวโขนที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน อวยๆ ไปให้งานจบได้ด้วยดี  แต่หากหมดสิ่งเกี่ยวพันแล้ว  ให้เดินต่อไปข้างหน้า  แล้วเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นประสบการณ์ในการใช้ชีวิตให้กลมกลืน…

อยู่ให้ได้ อยู่ให้เป็น  เข้าใจคน  เข้าใจโลก

จำไว้อย่างนึงว่า…คนที่รู้ตัวว่าสิ่งที่ทำมันไม่ดีเค้าไม่ทำกันหรอก  ที่เค้าทำซ้ำๆ  อยู่อย่างนั้น เพราะเค้าไม่รู้ จะบอกหรือจะปรับอย่างไรก็พัฒนายาก ดังที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวไว้..ว่าบัวนั้นมีหลายเหล่า ปัญญาคนในโลกนี้ก็ต่างกันดังเหล่าบัว

…ญาตา…