มนุษย์เราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงและขี้เกียจมากกับความวุ่นวายต่างๆ โดยเฉพาะ การจะเลิกกับใครสักคนคนเรามักรู้สึกสูญเสียได้ง่ายและรู้สึกได้ยาวนานกว่าการได้รับหรือการมีเค้าอยู๋นั่นแหละ ถ้าจะให้ทิ้งอะไรสักอย่างเราจะมีเหตุผลพันประการ ที่จะเหนี่ยวรั้งสิ่งนั้นไว้ โดยเฉพาะอย่าง กับสิ่งที่เรียกว่า ความรัก การรักษาสัมพันธภาพเดิมๆไว้เป็นเรื่องที่ยุ่งยากน้อยกว่า และก็ดูดีกว่าเนื่องจากไม่รู้จะตอบกับสังคมยังไงดี หน้าตาศักดิ์ศรี มันค้ำคอ
ถึงจะมีคู่ไม่ดีขนาดไหน ทำร้ายจิตใจเรายังไง หรืออาจจะถึงร่างกาย บางคนโดนหลอกแทบหมดตัว แต่เราก็ยังรู้สึกดีลึกๆกับเค้าอยู่ ซึ่งมันคือ ความหวังอันเลือนลาง สำหรับวันข้างหน้า แต่ปัจจุบัน คือไรคะ พูด……….. ออกโซเซียล ออกงาน ออกสังคม ออกสื่อ ดูดีต่างๆ มันก็ภาพที่เราสร้างจนวางมันไม่ได้ จนมันกลับมาทำร้ายเราในวันที่ความจริงของนิสัยปรากฎ แต่ก็ยังต้องแบกสิ่งนั้นไว้ หรือใครว่าไม่จริง ถึงเราจะบ่นว่าต่างๆนานา ว่าห่วยอย่างนั้น เฮงซวยอย่างนี้ แต่พอทำดีถูกใจขึ้นมาหน่อยนึง ก็ปลาบปลื้มใจพองใช่มั้ยล่ะ แล้วก็หลอกตัวเองด้วยคำง่ายในหัวว่า สักวันนึงเค้าจะเปลี่ยน ให้โอกาสเค้าเถอะ …
มันใช่เหรอ..ในหน้าประวัติศาสตร์ไหนบ้างที่เป็นได้อย่างนั้นเกิน 30 % คนเราเป็นไงมันก็เป็นแบบนั้นตั้งแต่แรก เรายอมปิดตาข้างนึงทำเป็นมองไม่เห็นเอง แล้วก็ใช้เป็นข้ออ้างในการที่จะแยกจากเค้าไม่ได้ ที่จริงใจมันก็ผูกพันนั่นแหละ ถ้าจะว่ากันตรงๆ จะผูกกันด้วยอะไรอันนี้ก็เป็นเหตุผลอ้างอิงส่วนตัว
เอาเรื่องจริงนะไม่ใช่ทิ้งไม่ได้ แต่เกลียดความรู้สึกที่ไม่มีใครมากกว่า ส่วนมากจะเป็นอย่างนั้น ไม่เชื่อถามใจตัวเองดูสิ มีนักปรัชญา ชื่อ สปิโนซา (Spinoza) ได้กล่าวไว้ว่า “เมื่อคนเราพูดว่าตนเองทำไม่ได้นั่นหมายความว่าพวกเค้าไม่อยากทำสิ่งนั้น” ต่อให้ไปไหว้พระ 9 วัดขอให้ตัดใจ ให้ออกจากวงจรบ้าๆนี่ได้สักที่ จะขอพรขอกำลังใจกี่ที่ พระเจ้าหรือเทวดาองค์ที่ไหนก็ช่วยไม่ได้ เพราะสุดท้ายก็ตัดใจเดินออกมาจากชีวิตเค้าไม่ได้สักที ดังนั้น การกลับไปเข้าใจเหตุผลลึกๆที่อยู่ในใจของตัวเอง “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง”
เพราะถ้าเข้าใจเหตุผลตัวเองไม่ได้ เราจะไม่มีวันออกมาจากวังวนเหล่านั้นได้เลย และอีกไม่นานโรคซึมเศร้าในระดับต้นก็จะตามมา ซึ่งมันเป็นภัยเงียบที่เกิดจากการสะสมปมต่างๆขึ้นในใจเราเอง
ที่นี้เราคงเห็นภาพบางอย่างได้ว่า ถ้าเราเริ่มที่จะถอยห่างออกมาได้เรื่อยๆ มันไม่ใช่การสูญเสียอย่างแน่นอน เพราะตอนที่เราอยู่ในสภาพนั้นเราเสียมาเยอะพอแล้วละ ถ้าเราค่อยๆออกมาได้สิ่งแรกที่เราจะได้รับคือ ความบีบคั้นในใจที่ลดลง ความปวดร้าว น้ำตาจากความคาดหวังจะค่อยๆแห้งหายไป ฟ้าเริ่มกลับมาเป็นสีฟ้า เริ่มเห็นสิ่งรอบๆ ว่าเราไม่มีแค่เค้าเพียงคนเดียว แต่เราต่างหากที่ปล่อยให้เค้ามีอิทธิพลเหนือเรา จนเราลืมแม้กระทั่งความรู้สึกของเราเอง
เวลาที่คุณมีอยู่เป็นสิ่งที่มีวันหมดไป ดังนั้นอย่าทำให้เวลาสูญเปล่าไปกับการใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น -สตีฟ จ็อปส์
เวลาที่สูญหายไปแล้วไม่อาจย้อนคือ แต่เราเอามาเป็นเครื่องเตือนใจได้
การจะรักใครหรือจะให้ใครยอมรับ เราต้องรักและยอมรับตัวเองให้ได้ก่อน -Olan Happiness
Leave a Reply